วันที่ 17 พฤษภาคม 2568 – มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนาโภชนาการที่ดีแก่นักเรียนในพื้นที่ชนบทห่างไกล โดยน้อมนำแนวพระราชดำริ ของ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตาม “โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน” ดำเนิน “โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน” โดยมุ่งให้นักเรียนได้บริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง สามารถเติบโตสมวัยทั้งด้านร่างกายและสติปัญญา ให้นักเรียนมีสุขภาพที่แข็งแรง โดยล่าสุด Kick off กิจกรรม “คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง” โดยมีพนักงาน “ซีพีอาสา” จากกลุ่มธุรกิจ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF (โรงเพาะฟักลูกกุ้งจ.ตราด) เพื่อยกระดับมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยของโรงเรือนเลี้ยงไก่ในโรงเรียน นอกจากนี้ยังสนับสนุนให้พนักงานในเครือซีพี มีส่วนร่วมตอบแทนคุณแผ่นดินในการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยนำร่องจัดขึ้น ณ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสิงค์โปร์แอร์ไลน์ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี
โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เป็นโครงการสำคัญของมูลนิธิฯ ร่วมกับบริษัท ซีพีเอฟ (ประเทศไทย) หรือ CPF ส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนพื้นที่ห่างไกลได้รับประทานโปรตีนจากไข่ไก่อย่างเพียงพอ เป็นรากฐานสําคัญของการเติบโตอย่างแข็งแรงและพัฒนาศักยภาพได้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้โรงเรียนพัฒนาหลักสูตรการเลี้ยงไก่ไข่เชิงอาชีพ ให้นักเรียนได้เรียนรู้ตั้งแต่กระบวนการเลี้ยง การจัดการฟาร์ม ไปจนถึงการแปรรูป ผลิตภัณฑ์จากไก่ไข่เพื่อใช้บริโภคภายในโรงเรียน และต่อยอดเป็นธุรกิจ สร้างรายได้หมุนเวียนกลับคืนสู่โรงเรียนและ ชุมชนอย่างยั่งยืน
ตลอดระยะเวลาการดำเนินงานที่ผ่านมา โครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน ได้ประสบความสำเร็จในการขยายผลไปยัง 988 โรงเรียน ครอบคลุมพื้นที่ 75 จังหวัดทั่วประเทศ และสามารถช่วยสนับสนุนโภชนาการโปรตีนจากไข่ไก่ให้กับนักเรียนกว่า 223,000 คน ครูและบุคลากรกว่า 16,500 คน ซึ่งเป็นผลลัพธ์ที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของมูลนิธิฯ ในการสร้างโอกาสและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนในพื้นที่ชนบทอย่างแท้จริง
คุณพีธนทัศ วีรงคเสนีย์ ผู้บริหารโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน เปิดเผยว่า โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เป็นโครงการที่ดำเนินตั้งแต่ปี 2532 จนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนในโรงเรียนถิ่นทุรกันดารและพื้นที่ห่างไกล ได้บริโภคไข่ไก่อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับการสนับสนุนจากหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถานศึกษา และกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี การดำเนินงานโครงการไม่เพียงแต่ให้ความสำคัญกับผลผลิตไข่ไก่เท่านั้น แต่ยังรวมถึงสุขอนามัยและสภาพแวดล้อมที่ดีของโรงเรือนเลี้ยงไก่ ซึ่งมีผลต่อสุขภาพของไก่และคุณภาพของไข่ รวมถึงสุขอนามัยของนักเรียนและบุคลากรในโรงเรียนด้วย เพราะความสะอาด คือจุดเริ่มต้นของคุณภาพ มูลนิธิฯ จึงได้ริเริ่มกิจกรรม “คลีนเล้าด้วยใจ ปันไข่ให้น้อง” ขึ้น เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการพัฒนาโครงการฯ เพื่อยกระดับมาตรฐานความสะอาดและความปลอดภัยของโรงเรือนเลี้ยงไก่ ที่จะส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของนักเรียนที่ได้รับประทานอาหารกลางวันจากโครงการนี้ โดยกิจกรรมในครั้งนี้จะนำร่องที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนสิงค์โปร์แอร์ไลน์ อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี และมีเป้าหมายที่จะขยายผลไปยังโรงเรียนอื่นๆ ในโครงการต่อไป
“…สิ่งที่สำคัญสำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ คือ การเปิดโอกาสให้พนักงาน “ซีพีอาสา” จากกลุ่มธุรกิจ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ CPF (โรงเพาะฟักลูกกุ้งจ.ตราด) ได้เข้ามามีส่วนร่วมตอบแทนคุณแผ่นดินในการช่วยเหลือสังคมอย่างเป็นรูปธรรม โดยพนักงานจิตอาสาจะร่วมกับครู นักเรียน และชุมชน ในการทำความสะอาดโรงเรือนเลี้ยงไก่ ไม่ว่าจะเป็นการเก็บกวาด ขัดล้าง กำจัดเชื้อโรค และปรับปรุงสภาพแวดล้อมโดยรอบโรงเรือนให้ถูกสุขลักษณะ…”
คุณพรทิพย์ ธนะประสพ ผู้ชำนาญการงานธุรการและความยั่งยืนภาคกลางตะวันออก (CSR Leader ภาคกลางตะวันออก) บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร(โรงเพาะฟักลูกกุ้งจ.ตราด) หนึ่งในพนักงาน “ซีพีอาสา” เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจและยินดีที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาโครงการดีๆที่ช่วยเหลือเด็กๆและเยาวชนในพื้นที่ห่างไกล วันนี้มีพนักงานมาช่วยกันทำความสะอาดโรงเรือนเลี้ยงไก่ในโรงเรียน โดยมุ่งหวังให้นักเรียนมีสุขอนามัยที่ดี มีไข่ที่สดสะอาดและปลอดภัยไว้บริโภค เพื่อเติบโตอย่างแข็งแรง สมวัย และเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศชาติในอนาคต
ทั้งนี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ยังคงมุ่งมั่นดำเนินโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียนอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าหมายที่จะขยายผลให้ครอบคลุม 3,000 โรงเรียนทั่วประเทศ เพื่อส่งเสริมโภชนาการที่ดีและยกระดับคุณภาพชีวิตของนักเรียนในพื้นที่ชนบท โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กิจกรรมในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของสุขอนามัยในโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ และเป็นแรงบันดาลใจให้โรงเรียนเกิดการดูแลรักษาและพัฒนาโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อประโยชน์สูงสุดของนักเรียนและชุมชนในระยะยาว และมีความยั่งยืนได้
