หนึ่งเสียงกำลังใจจากศิษย์เก่า รุ่นที่ 2 โครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ ที่มาพร้อมกับความสำเร็จในชีวิต

อีกหนึ่งความภาคภูมิใจของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ในการริเริ่มและดำเนินโครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ ที่มีศิษย์เก่าประสบความสำเร็จในชีวิต ทั้งเป็นคนดี พลเมืองดี และมีอาชีพที่ดี ในวันนี้จะมาบอกเล่าเรื่องราวดีๆ ที่สร้างกำลังใจให้ทีมงาน ตลอดจนทุกคนที่กำลังรู้สึกท้อจากปัญหาต่างๆ ในช่วงที่สถานการณ์บ้านเมืองวิกฤตนี้

นายธนพล วิฑูรย์ ศิษย์เก่า รุ่น 2 โครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ โดยปัจจุบันประกอบอาชีพข้าราชการตำรวจ หรือสิบตำรวจโท ธนพล วิฑูรย์ หรือครูเสือ ทำหน้าที่ครูสอนอยู่ที่ ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงมณีรัตน์ บุนนาค อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี

ครูเสือ กล่าวว่า ตนเองไม่มีกำลังทรัพย์ มีแต่ร่างกายที่เป็นทาน ดังนั้นจึงทำงานทุกวันไม่เคยหยุดพัก เมื่อมีเวลาหลังการเรียนการสอน ก็เข้าไร่ปลูกข้าว ปลูกผัก เพื่อให้นักเรียนรับประทาน อาทิ ข้าวไร่ ถั่วฝักยาว พริก กระเจี๊ยบแดง แตงกวา ข้าวโพดข้าวเหนียว ฝัก แฟง ฟักทอง แต่ในช่วงหน้าฝนในโรงเรียนปลูกผักได้น้อยเพราะฝนตกบ่อย ทำให้ต้องขยายพื้นที่ไปไร่ข้างๆโรงเรียน ซึ่งในห้องเรียนก็ได้ก็สอนนักเรียนเสมอว่า ในอนาคตต่อไปจะเป็นอย่างไรไม่รู้ เรียนสูงก็ใช่ว่าจะได้งานเสมอไป เรามีต้นทุนชีวิตอะไรบ้าง ถ้าวันหนึ่งเงินไม่สามารถซื้ออะไรได้ เราทำอะไรเป็นบ้าง เราจะเลี้ยงชีพตัวเองอย่างไร

นักเรียนบางคนหุงข้าวยังไม่เป็น ครูเสือก็จะคอยเป็นพี่เลี้ยง เอาตัวเองเป็นแบบอย่างคือทำให้เด็กๆดู ปลูกผักปลูกข้าวทำอย่างไร จนเด็กๆเริ่มสนใจที่จะมาเรียนรู้ สำหรับครูเสือแล้วถ้าเหนื่อยก็นอนพักพอตื่นขึ้นมาก็หายเพราะอายุยังน้อย (31ปี) ครูเสือคิดว่าถ้าปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปโดยไม่สร้างอะไรสักอย่างพอแก่ตัว ไปหรือไม่มีแรงจะมานั่งย้อนเวลาคงไม่ได้ เพราะเวลเท่านั้นที่ยุติธรรมที่สุดในโลกใบนี้ ไม่ว่าจะเป็นคนชนชั้นไหนก็มีเวลาเท่ากัน

เผื่อเพื่อนๆคนไหนกำลังท้อ ผมอาจเป็นแรงบัลดาลใจให้ทำและสร้างสรรค์สิ่งต่างๆที่สวยงามให้กับโลกใบนี้ ต่อให้วันนี้ต้องตาย ผมก็ไม่มีอะไรให้นึกเสียใจเพราะผมไม่ได้ปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยสูญเปล่า ครูเสือ กล่าวทิ้งท้าย

######

ที่มา : คุณอารีรัตน์ เหลือหลาย