มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท เผย 4 ฮีโร่รุ่นใหม่ หนุนดูแลน้อง ๆ ในโครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ หวังช่วยเหลือสังคมสร้างอนาคตของชาติ

หลังจากที่มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้ดำเนินโครงการนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ ตั้งแต่ปี 2546 ต่อเนื่องจนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 18 ปี ทำให้มีนักเรียนทุนในโครงการหลากหลายรุ่นที่ประสบความสำเร็จ สำหรับเบื้องหลังความสำเร็จ นอกจากจะมีพี่เลี้ยงคุณภาพจากมูลนิธิฯแล้ว ยังมี 4 ฮีโร่ จากหน่วยงานร่วม ตำรวจตชด. และคนรุ่นใหม่เข้ามาช่วยดูแลน้อง ๆ นักเรียนทุนฯ ภายในศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตร เพื่อหวังต่อยอดทำความดีช่วยเหลือน้อง ๆ ที่ด้อยโอกาสให้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่เป็นคนดี เป็นอนาคตของชาติ และประสบความสำเร็จในสิ่งที่คาดหวังและตั้งใจ

สร้างคุณค่าในตนเอง โดยสนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นอนาคตของประเทศ
นายพุฒิพงศ์ โกมลสถิร หรือพี่เจี๊ยบ กล่าวว่า ตั้งแต่ที่ได้รู้จักมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้เห็นโครงการต่างๆ ที่เป็นประโยชน์จนตนเองนั้นได้มาทำงานที่ศูนย์ฝึกอาชีพเยาวชนเกษตรในงานดูแลนักเรียน ซึ่งมีความรู้สึกว่าเป็นงานที่น่าทึ่ง ที่ได้ใช้ความรู้ความสามารถที่มีเพื่อช่วยเหลือเด็กๆ เป็นสิ่งที่มีคุณค่ามากๆ ที่เราได้ใช้ความรู้ความสามารถมาทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอื่น สนับสนุนเด็กรุ่นใหม่ที่กำลังจะเป็นอนาคตของประเทศ และพอยิ่งได้รู้จักใกล้ชิดกับเด็กๆ ยิ่งรู้สึกเหมือนเรามีน้อง ๆ ที่เราต้องคอยดูแลเอาใจใส่ คอยสนับสนุนและให้คำปรึกษาแก่เขาในทุกๆด้าน โดยตลอดระยะเวลา 6-7 เดือนที่ได้ทำงานที่นี่ รู้สึกประทับใจและภูมิใจมาก

ที่นี่เป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ ที่ต้องดูแลน้อง ๆ เหมือนครอบครัว
ส.ต.อ. ธนวัฒน์ คงถอด ผบ.หมู่ กก.ตชด.14 หรือครูแมน กล่าวว่า ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่ง ผบ.หมู่ กก.ตชด.14 รับราชการมา 8 ปี อยู่สายงานสืบสวนจับกุมมาโดยตลอด วันหนึ่งผู้บังคับบัญชาได้ส่งตัวมาเพื่อเป็น ครู ตชด. ที่ช่วยดูแลนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ซึ่งการมาที่นี่เหมือนเริ่มต้นที่ตนไม่มีประสบการณ์การเป็นครูมาก่อน จึงต้องเรียนรู้การทำงานใหม่ทั้งหมด สามารถให้ข้อคิดและแนวทางการใช้ชีวิตที่ดีกว่าแก่นักเรียนที่จะต้องไปดูแล ตนจึงตัดสินใจมาที่นี่

การเริ่มต้นเป็นครู ตชด.ที่ช่วยดูแลนักเรียนทุนในพระราชานุเคราะห์ ตนได้นำประสบการณ์ ระเบียบที่ได้รับจากการฝึกตำรวจ มาใช้กับนักเรียนในหอพักที่ศูนย์ฝึก ซึ่งทำให้นักเรียนรู้สึกอึดอัดและอยู่ภายในระเบียบมากเกินไป ตนจึงเริ่มปรับตัวและรับฟังคำแนะนำของครูและพี่เลี้ยงที่อยู่มาก่อน โดยเปลี่ยนความคิดจากการทำงานมาเป็นการอยู่ร่วมกันเป็นครอบครัวใหญ่ ซึ่งตนก็เป็นเหมือนพี่ที่คอยช่วยเหลือน้องหรือให้คำแนะนำแก่น้อง ทำให้นักเรียนไม่รู้สึกอึดอัดและอยู่ด้วยกันเหมือนครอบครัว

จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ก็จะครบ 3 ปีที่ผมมาทำงานที่นี่ ผมก็มีความรู้สึกผูกพันกับบ้านหลังใหญ่มากขึ้น จนคิดว่าที่นี่ก็คือบ้านหลังที่ 2 การเป็นครูเหมือนเรามีเพื่อน มีน้อง แต่ละคนก็แตกต่างกันไป เราสอนพวกเขาแต่เราก็ได้เรียนรู้ด้วยเช่นกัน การเป็นครูต้องใช้ความรู้คู่กับการวางแผน จะต้องสอนอะไร สื่อสารแบบไหน เพื่อที่นักเรียนจะสามารถเข้าใจและได้รับความรู้ แม้จะเหนื่อยแต่ความสุขก็ทำให้หายเหนื่อยได้ เมื่อเด็กๆ มีอนาคตที่สดใสครูอย่างเราก็ภูมิใจ หากไม่ได้มาเป็นครู คงไม่เข้าใจเลยว่าอาชีพครูมีความละเอียดอ่อน ครูเป็นเหมือนพ่ออีกคนหนึ่งดูแลเรื่องการสอนการใช้ชีวิตประจำวัน ดูแลเมื่อยามนักเรียนเจ็บป่วย และยังต้องเป็นที่ปรึกษาที่ดีให้พวกเขาด้วย ผมมีความสุขที่ได้มาเป็น ครู ตชด.ที่ช่วยดูแลนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ครับ

หน้าที่ผมคือคอยดูเเลให้เขาอยู่ในกฎระเบียบ และมีความสุขเมื่ออยู่ที่นี่
นายวีรายุทธ แซ่ดั่น หรือพี่ติ๊ก กล่าวว่า ผมรู้สึกขอบคุณโครงการนี้ที่มีขึ้นมาเพื่อมอบโอกาสให้เด็กๆ ที่มีความยากลำบากในการศึกษาได้มีโอกาสมาเรียนโรงเรียนที่ดี และได้เจอเพื่อนใหม่ๆ ซึ่งจะต้องมีความเป็นอยู่ที่แตกต่างที่ไม่เหมือนบ้านตนเอง ต้องปรับตัวในการอยู่รวมกันที่นี้ และการดูแลความเป็นอยู่ของน้อง ๆในเเต่ละวัน คือหน้าที่ที่ผมคอยดูเเลให้เขาอยู่ในกฎระเบียบ มีความสุขเมื่ออยู่ที่นี่ ไม่อึดอัด ซึ่งการทำงานเเรกๆก็รู้สึกยากกว่าจะเข้าใจน้อง ๆเเต่ละคน เเต่พอนานๆไปก็เริ่มมีการผูกพันธ์เหมือนมีครอบครัวใหญ่ความรู้สึกเเบบนี้ทำให้เราทำงานได้มีความสุขในที่ทำงาน

ถึงจะไม่ได้จบครูมาโดยตรง แต่ก็สามารถสอนเด็กแต่ละคน ให้มาเป็นครอบครัวเดียวกันได้
ส.ต.ท. ภูริจักษ์ พลับทอง หรือครูรุต ผบ.หมู่ กก.ตชด.14 กล่าวว่า ตนได้ปฏิบัติหน้าที่ ครู ตชด ในการช่วยดูแลนักเรียนในพระราชานุเคราะห์ ซึ่งน้อง ๆ มาจากหลากหลายโรงเรียน ต่างคนต่างพ่อเเม่ เเต่พอมาอยู่ศูนย์ฝึกเราก็ให้คำแนะนำการอยู่ร่วมกัน ความสามัคคี และสอนให้รักกันเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน สำหรับการที่ได้มาเป็นครู ตนได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆจากการสอนน้องเเต่ละคนแตกต่างกันไป คอยอยู่เป็นครูและพี่ที่พร้อมให้คำปรึกษาน้องได้ทุกเรื่อง และสอนในการดำรงค์ชีวิตประจำวัน เพื่อเด็กๆโตขึ้นจะได้ดำรงค์ชีวิตเองได้ ถึงตนจะไม่ได้จบด้านครูมาโดยตรง แต่ก็สามารถสอนเด็กแต่ละคน ที่มาจากคนละที่ ให้มาเป็นครอบครัวเดียวกันได้ และที่สำคัญได้เห็นเด็กๆ ที่จบออกไปได้เลี้ยงตัวเองได้ ได้เรียนมหาลัยดีๆ ผมก็ดีใจกับเด็กๆแล้วครับ

######